939 Views |
อาการผมร่วงหลังคลอดลูก ทำให้คุณแม่หลายคนกังวลใจอยู่ไม่น้อย เพราะบางคนร่วงทีเยอะมากจนผมบาง แต่อาการผมร่วงนี้จะอยู่กับคุณแม่มือใหม่ เพียงชั่วคราวเท่านั้น เรามาหาทางรับมือช่วงที่ผมร่วงกันดีกว่าค่ะ
ฮอร์โมนเปลี่ยน ทำผมร่วง
โดยปกติแล้วผมของเราส่วนใหญ่(90%)จะเจริญเติบโตอยู่ในระยะเจริญเติบโต(Anagen phase) ที่เหลือ(10%)จะเข้าสู่ระยะพัก(Resting or Telogen phase)ซึ่งเป็นระยะที่หยุดการเจริญเติบโต หลังจากนั้นทุกๆช่วง 2-5 เดือน ผมที่อยู่ในระยะพักเหล่านี้ก็จะหลุดร่วงออกมาแล้วเส้นผมใหม่ก็จะงอกเข้าไปแทนที่
ในขณะตั้งครรภ์ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ผลิตจากรกสูงกว่าปกติมาก ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีผลทำให้เส้นผมอยู่ในระยะเจริญเติบโต(Anagen phase)ได้นานขึ้น นอกจากนี้ในระหว่างตั้งครรภ์ร่างกายได้รับสารอาหารต่างๆเพิ่มขึ้น ทำให้เส้นผมระหว่างที่ตั้งครรภ์อยู่มีความสวยงาม สุขภาพผมดี และอายุยืนยาวกว่าปกติ แต่หลังคลอดฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ผลิตจากรกหายไป ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะกลับเข้าสู่ปกติ เส้นผมที่ถูกกระตุ้นให้เจริญเติบโตก็จะเข้าสู่ระยะ Telogen แล้วหลุดร่วงออกมาหลังจากนั้นประมาณ 2-4 เดือน
ปัญหาผมร่วงของคุณแม่หลังคลอดพบได้ค่อนข้างบ่อย เส้นผมที่เข้าสู่ระยะพัก(Telogen or Resting phase)อาจจะมีมากถึง 60% ของเส้นผมทั้งหมด ปริมาณผมที่ร่วงโดยประมาณคือ 100-300 เส้นต่อวัน ระยะเวลาที่ผมร่วงมากที่สุดก็คือประมาณเดือนที่ 3-4 หลังคลอด เส้นผมที่ร่วงไม่ได้ทำให้คุณแม่ศีรษะล้าน เพราะปริมาณเส้นผมที่ร่วงไปปริมาณพอๆ กับเส้นผมที่ควรจะร่วงในช่วงตั้งครรภ์แต่ไม่ร่วงนั่นเองค่ะ ซึ่งปกติช่วง 6เดือนหลังคลอดเป็นต้นไป เส้นผมจะไม่ค่อยหลุดร่วง ซึ่งสัมพันธ์กับฮอร์โมนที่เริ่มจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วค่ะ
รับมือกับผมร่วงหลังคลอด
1. วิตามิน วิตามินบี ซี อี สังกะสีและซีลีเนียมล้วนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพผิว ผมและเล็บ จึงควรทานวิตามินต่อหลังคลอด ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ขอแนะนำว่าควรเปลี่ยนไปทานวิตามินเสริมสำหรับคุณแม่หลังคลอดซึ่งจะช่วยให้ได้รับสารอาหารที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายในระยะนี้โดยเฉพาะ
2. ไบโอติน ไบโอตินอยู่ในตระกูลวิตามินบีและมีความสำคัญต่อเส้นผมเป็นพิเศษเนื่องจากช่วยให้ร่างกายสร้างโปรตีนต่างๆ อย่างเคราติน การขาดไบโอตินเป็นสาเหตุหนึ่งของผมร่วง ผมขาดง่ายและเล็บเปราะ หากต้องการเพิ่มปริมาณไบโอตินให้แก่ร่างกาย ควรทานไบโอตินเสริมวันละ 5 มิลลิกรัมควบคู่ไปกับการทานอาหารตามปกติ นอกจากนี้ก็อาจจะลองใช้แชมพูและครีมนวดผมที่มีไบโอตินสูง แต่วิธีนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าได้ผลจริง
3. ยีสต์ เคยได้ยินไหมคะว่าใช้เบีย์สระผมจะช่วยให้ผมแข็งแรงเงางาม เรื่องนี้มีมูลความจริงเพราะเบียร์ทำจากยีสต์ซึ่งมีไบโอติน กรดโฟลิกและไรโบฟลาวิน นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องใช้เบียร์สิงห์หมักผมทั้งวันนะคะ ลองวิธีใช้ยีสต์หมักเบียร์ทำมาส์กพอกผมด้วยตนเองดู
4. กรดไขมันที่จำเป็น คุณแม่หลังคลอดควรพยายามทานปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ให้มากๆ หรือเลือกทานโอเมก้า 3-6-9 จากเมล็ดแฟล็กซ์หรือน้ำมันปลาเป็นอาหารเสริมเนื่องจากกรดไขมันที่จำเป็นเหล่านี้ไม่เพียงมีประโยชน์ต่อคอเลสเตอรอล แต่ยังช่วยให้เส้นผมของคุณแข็งแรงเงางามด้วย
5. ตัดผม คุณอาจเคยได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่หรือช่างทำผมแนะให้ตัดผมสั้นก่อนคลอด สาเหตุก็เพราะผมสั้นต้องการสารอาหารน้อยกว่าและอาจจะร่วงน้อยกว่าผมยาว ผลพลอยได้จากการตัดผมสั้นคือคุณจะไม่ค่อยมีปัญหาผมแตกปลายหรือผมพันกัน ทั้งยังประหยัดเวลาในการดูแลรักษาอีกด้วย
6. ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมจากธรรมชาติ การรักษาผมร่วงทำได้โดยรักษาความสะอาดของเส้นผม หนังศีรษะ ควรสระผมด้วยแชมพูอ่อนๆที่ปราศจากสารเคมีรุนแรง เพราะช่วงนี้รากผมของคุณแม่จะไวต่อสิ่งกระตุ้น สระผมร่วมกับการนวดศีรษะเป็นระยะๆ ในขณะที่สระผม เพื่อให้มีเลือดมาเลี้ยงที่ศีรษะมากขึ้น
ข้อควรระวัง : ผมร่วงกับทารกน้อย
เส้นผมของคุณแม่ที่ร่วงอาจไปพันอยู่ที่ ข้อมือ, นิ้วมือ, ข้อเท้า, นิ้วเท้า, ข้อศอก, อวัยวะเพศชาย หรือ ข้อพับอื่นๆ ของลูกน้อยได้ โดยมันจะรัดแน่นและเสียดสี เกิดภาวะที่เรียกว่า แฮร์ ทูนิเก้ (Hair Torniquet) ซึ่งทำให้ลูกน้อยเจ็บอย่างมากเพราะผิวของทารกนั้นบอบบาง ถ้าคุณแม่พบว่าลูกร้องโดยไม่มีสาเหตุ อาจต้องตรวจดูให้ดีว่าเกิดมีเส้นผมของคณแม่ไปพันอยู่ที่ส่วนใดของลูกหรือไม่
เมื่อเราได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ อาการผมร่วงหลังคลอด กันไปแล้ว เชื่อว่าคุณแม่หลายคนคงหายกังวลขึ้นเยอะเลยใช่ไหมคะ เพราะเจ้าอาการเหล่านี้ไม่มีอะไรน่ากังวลเลย เพียงแต่รอเวลาให้อาการทุเลาไปเองตามธรรมชาติค่ะ
Cr. mamaexpert.com/ theasianparent.com/ kapook.com